เที่ยวต่างประเทศ

เที่ยววังเวียง หลวงพระบาง ด้วยตัวเอง

เที่ยววังเวียง หลวงพระบาง ด้วยตัวเอง

วางแผนเดินทางกันก่อน

สรุปทริปลาว วังเวียง หลวงพระบาง 4 วัน 3 คืน ครั้งนี้ผมเลยวางแผนเริ่มต้นเดินทางจากอุดรธานี พักวังเวียง 1 คืน หลวงพระบาง 2 คืน เลยจองที่พัก ผมจองผ่าน agoda.com เว็บนี้ ส่วนเรื่องเที่ยวและการเดินทางของผมมาติดตามกันเลยครับ

แผนที่เที่ยวประเทศลาว

สาเหตุการเดินทางรอบนี้

เนื่องจากพี่ๆ ที่เรียนด้วยกัน รวมทั้งอาจารย์ด้วย 8 คน ได้ นึกอยากเที่ยวหลวงพระบางกัน ตกลงเสร็จสรรพ ให้ผมจัดทริปครั้งนี้ เลยตกลงกันว่ามาเจอกันที่อุดรธานีก่อน ค่อยไปลาวพร้อมกันตอนเช้าอีกวัน

เดินทางวันแรก

ผมเดินทางรถทัวร์ โดยบริษัท ชาญทัวร์ ค่าตั๋ว 402 บาท ครับ ตอนเช้าครับมาลงอุดรธานีก็เย็นแล้ว พอดีผมมาอุดรธานีบ่อยเลย ให้สามล้อขาประจำมารับที่ สถานีขนส่งไปที่พัก ครับ ส่วนที่พักประจำราคาถูกแถมสะอาด เจ้าของใจดี ผมแนะนำที่นี่เลยครับ ลีลาวดีเพลส ราคา 380 บาทต่อคืนครับ เบอร์ติดต่อ 042-342-688 ถึง 9  นั่งรถทัวร์เหนื่อยมากเลยสลบเอาแรงไปเลยครับ

เดินทางวันที่สอง

พอดีรอบนี้ผมไปกันหลายคนเลยจองรถตู้จาก หนองคายมารับที่อุดรธานีเลยครับ คุ้มกว่านั่งรถโดยสารระหว่างประเทศครับ ประมาณ 2,000 บาทครับ มารับแต่เช้า แถมพาเรากินอาหารเช้ากันด้วย จัดการเตรียมหนังสือเดินทางของทุกคนบนรถรวมให้คนขับรถไปจัดการให้เตรียมเพียงเงินค่าธรรมเนียม

พอข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวมาแล้ว ปรากฏว่าต้องเปลี่ยนรถตู้ฮุนไดเป็นของประเทศลาวครับ เล่นเอางงเหมือนกันตอนแรก เพราะทุกอย่างกลับจากประเทศไทยทั้งหมด ทั้งพวงมาลัยซ้าย ทางขึ้นทางขวา พอมาถึงแล้วแวะซื้อยาแก้เมารถกันก่อน เลยแวะถ่ายรูปรถป้ายร้านยาน่ารักๆ มาฝากครับ

ก่อนเดินทางผมเลยเอาแผนที่มาลงให้ดูก่อน เผื่อบางคนไม่เคยไปแล้วจะงงครับ เส้นทางการเดินทางรอบนี้จะอาศัยทางหลวงหมายเลข 13 เป็นหลักครับ

เป้าหมายเดินทางวันแรกวันนี้ คือ วังเวียง โดยการวางแผนวันนี้จะเดินทางไปชมเขื่อนน้ำงึม 2 ด้วย โดยทางเข้าเขื่อนน้ำงึมจะอยู่ก่อนถึงวังเวียงประมาณ 50 กิโลเมตรครับ เป็นทางแยกเข้าไปตัวเขื่อนประมาณ 40 กิโลเมตรครับ

เดินทางกลับจากเขื่อนน้ำงึม 2 ก็เริ่มจะเย็นแล้ว พวกผมเลยตัดสินใจรีบเดินทางมาวังเวียงเพื่อไม่ให้ติดเวลากลางคืน ที่พัก ถาวรสุขรีสอร์ท เป็นรีสอร์ทริมแม่น้ำสอง สวยมากเลยครับ แถมไม่แพงด้วยครับ ผมจองไว้ ประมาณ 800 บาท นอนได้สองคนครับ ^^ พอถึงที่พักติดริมน้ำอากาศเย็นสบาย ดื่มด่ำกับบรรยากาศวิถีชีวิตของชาวบ้าน ประทับใจสุดเลยครับ

เดินทางวันที่สาม ออกจากที่พักวันที่สามตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเลยครับ เพราะเจ้าของรถบอกว่าใช้เวลาเดินทางประมาณ 6-7 ชั่วโมง ประมาณว่าเดินทางเช้า ถึงเกือบเย็นเลยครับ ซึ่งระหว่างทางได้ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำสอง วิวสวยจนอดใจไม่ไหว เลยแวะถ่ายรูปกันซะหน่อย

เส้นทางระหว่างวังเวียงไปหลวงพระบาง สำหรับการเดินทางวันนี้ถือว่าอากาศค่อนข้างดีครับ มีหมอกระหว่างทาง เลยแวะถ่ายรูปต้นซากุระมาฝากให้ชมกันครับ

เดินทางต่อมาอีกซักระยะนึง จะเจอจุดแวะพักรถประจำทาง ซึ่งผมว่าเป็นจุดชมวิวมากกว่าครับ เพราะวิวสวยมาก แถมวันนี้ถือว่าโชคดีที่จุดนี้หมอกค่อนข้างหนามาก

ระหว่างทาง ก็จอดแวะถ่ายรูปกันเรื่อยๆ เป็นการพักเพื่อไม่ให้เมื่อยมากในการนั่งรถนานด้วยครับ ^^

ในที่สุดก็ถึงหลวงพระบาง เกือบห้าโมงเย็น นั่งรถกันจนเมื่อย แต่พอถึงเจอบรรยากาศเงียบสงบแทบหายเหนื่อยเลยครับ

วันนี้ผมเลือก ที่พัก วิลล่าน้ำเหนือ ไว้ครับ เจ้าของเป็นคนไทยมาทำรีสอร์ทที่นี่ ส่วนตัวผมว่าบรรยากาศที่นี่ไม่ไกลจากเมืองและตลาดมาก สามารถเดินไปได้ แถมยังเงียบสงบมากครับ ตอนจองประมาณ 1,200 บาทต่อห้องครับ เก็บข้าวเก็บของกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้เวลาเที่ยวกันแล้ว ^^

ที่แรกอยู่ไม่ไกลจากที่พักมาก คือ วัดถ้ำภูสี เป็นวัดที่อยู่บนภูเขา กว่าจะเดินขึ้นได้เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน แต่เดินขึ้นมาถึงก็หายเหนื่อยกับวิวที่ถือว่าเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกของหลวงพระบางเลยก็ว่าได้ครับ

กองทัพต้องเดินด้วยท้องแล้วสินะ เลยเดินตลาดหาของกินซะหน่อย เจอร้านกับข้าวร้านนึงกับข้าวเยอะมาก เพราะส่วนใหญ่ตลาดนี้จะขายข้าวแล้วสั่งกับข้าวกินกันที่นั่นเลย สนนราคาไม่ต่างจากบ้านเราเท่าไหร่ครับ แต่อาจจะแพงกว่าบ้านเราซักห้าบาทสิบบาทได้ครับ ^^

กินข้าวกินปลากันแล้ว ได้เวลาอาบน้ำนอนเอาแรงจากการเดินทางอันเหนื่อยล้าในวันนี้จนในที่สุดหลับ

เดินทางวันที่สี่

สำหรับโปรแกรมวันนี้ อยู่เที่ยวหลวงพระบางทั้งวันครับ เริ่มต้นโปรแกรมด้วยการตักบาตรยามเช้า แต่ต้องตื่นมาตั้งแต่ตีห้าเพื่อมาหาที่นั่งมุมเหมาะกันก่อน ส่วนของตักบาตรทั่วไปหากเป็นนักท่องเที่ยวจะมีชาวบ้านเดินขายอยู่ เป็นข้าวเหนียวกับกล้วย ผมว่ามันแปลกมากๆ ไม่เคยเห็นที่ไหนเท่าไหร่ เสน่ห์ของการตักบาตรที่หลวงพระบางอย่างหนึ่งก็คือ จำนวนพระสองร้อยกว่าองค์ ที่เดินรับของตักบาตรจำนวนมาก ซึ่งเค้าเชื่อว่าถ้าได้ตักบาตรตั้งแต่พระสงฆ์องค์แรก จนถึงพระสงฆ์องค์สุดท้ายจะถือว่าได้บุญมาก แถมบางคนเชื่อว่าจะได้กลับมาที่หลวงพระบางอีกครั้ง ซึ่งทำให้ผมตักบาตรเป็นมือระวิงเลยกลัวไม่ได้กลับมาเที่ยวที่นี่อีก ^^

พอตักบาตรเสร็จ ก็วนรถไปชมวิวแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านหลวงพระบาง ธรรมชาติที่นี่ยังถือว่าสวยงามไร้มลพิษมาก ซึ่งหายากในประเทศไทยเรา

สถานที่ต่อไปคือ ถ้ำติ่ง อยู่ห่างจากเมืองหลวงพระบาง ประมาณยี่สิบห้ากิโลเมตรได้ เสน่ห์ของที่นี่คือต้องนั่งเรือข้ามน้ำไปชมความงามของถ้ำ รวมทั้งมีพระพุทธรูปจำนวนมากบริเวณถ้ำนี้ครับ ค่าใช้จ่ายสำหรับเรือข้ามไปกลับ 20,000 กีบ ค่าเข้าชมอีก 20,000 กีบ ครับ ^^

กลับมาเมืองหลวงพระบาง ก็เที่ยววัดกันต่อเลยครับ วัดเชียงของวรมหาวิหาร สุดยอดสถาปัตยกรรมแบบล้านช้าง ค่าเข้าชม 20,000 กีบ ครับ ^^

เดินชมวัดกันจนเหนื่อยก็ได้เวลาพักผ่อน จากนั้นก็เดินมาชมตลาดยามเย็น แต่เสียดายที่ลืมหยิบกล้องไปถ่ายรูปเนื่องจากแบตหมดชาร์ตแบตไว้ที่ห้อง

เดินทางวันที่ห้า วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่จะอยู่ในประเทศลาว เพราะต้องเดินทางไกลจากหลวงพระบางกลับมาประเทศไทย ใช้เวลาเดินทางเกือบสิบสองชั่วโมง ระหว่างทางได้ถ่ายรูปเล่นจากบนรถด้วย ^^

ระหว่างเดินทางกลับ คนขับรถบอกให้แวะกินข้าวอยู่ที่นึง เป็นที่นั่งในแม่น้ำเลย สนใจกันไหม พอเค้าพูดมาแบบนั้น พวกผมสนองเลยอยากรู้เป็นยังไง จะโอเคไหม อยากให้ทุกท่านตัดสินใจกันเอง แต่ผมว่าเข้าท่าเลยนะ นั่งกินข้าวเท้าแช่น้ำใสเย็นๆ เด็กๆน่าจะชอบที่นี่ครับ ^^

พอเดินทางมาเรื่อยๆจนถึงอุดรธานีก็เกือบหกโมงครึ่งแล้ว สุดท้ายก็กลับมาที่อุดรธานีเพื่อส่งอาจารย์ขึ้นเครื่อง พวกเราก็แยกย้ายกลับที่พัก แต่ผมตัดสินใจนั่งรถทัวร์กลับคืนนั้นเลย เพื่อประหยัดค่าที่พักออกแนวงกกันเลยทีเดียว

สุดท้ายต้องขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านตั้งแต่แรกจนจบ ทริปต่อไปจะไปที่ไหน ติดตามชมรายละเอียดได้ที่

Fackbook : https://www.facebook.com/TeawMuNDotCom

หน้าแรกของเว็บ

8 ความคิดเห็น

pat January 25, 2013 at 9:11 am

อ่านแล้วน่าสนใจจ้ะ อยากทราบราคาที่ไปทริปนี้จ้ะ แล้วติดต่อรถได้ที่ไหนนะ จะได้ไม่โดนหลอกนะ

ตอบกลับ
admin January 25, 2013 at 9:50 am

ทริปนี้ผมเริ่มจากอุดรอะครับ ให้รถตู้มารับไปด่านหนองคาย คิดราคาเที่ยวละ 1,000 ไปกลับ 2,000 อะครับ
ส่วนรถตู้ในลาว เค้าคิดผมวันละ 2,500 บาทรวมน้ำมันแล้วนะครับ แต่ราคาที่ผมบอกประมาณสองปีที่แล้วนะครับ
ส่วนเรื่องเบอร์ติดต่อ ผมต้องขอเวลาหานิดนึง ไม่แน่ใจว่าเก็บไว้ไหนแล้วอะครับ ^___^

ตอบกลับ
หลิน May 5, 2013 at 5:15 pm

ราคารถตู้นี่คือรวมคนขับป่าวคะ แล้วถ้าเช่ารถจากอุดรแล้วขับเองเข้าไปเที่ยวลาวได้ป่าวคะ

ตอบกลับ
หลิน May 5, 2013 at 5:16 pm

อีกนิดค่ะ ร้านที่เอาเท้าจุ่มน้ำ ชื่อร้านอะไร อยู่ตรงไหนคะ

ตอบกลับ
admin May 9, 2013 at 11:04 pm

ราคารถตู้เช่าจากอุดร ผมแนะนำไปพร้อมคนขับดีกว่า เพราะการทำเรื่องผ่านเข้าไป ผมว่ายุ่งยาก ไหนๆ จะเช่าแล้ว ให้เค้าขับพาเที่ยวไปเลยครับ อีกอย่างทางกับทิศทางการขับจะตรงข้ามกับบ้านเราทุกอย่าง จะงงเอาครับ ส่วนร้านอาหารที่ว่า เป็นร้านอาหารริมน้ำซอง มีล่องเรือยาว พายคายัก ล่องห่วง เล่นน้ำซอง ห้อยขาร

ตอบกลับ
admin May 9, 2013 at 11:07 pm

ลืมบอกค่าเช่ารถตู้ จากผมเช็คล่าสุด 2000 ไม่ได้แล้วครับ รวมน้ำมันถ้าไปจากไทย รถตู้ใหญ่ 3500-4000 แล้วครับ แต่ถ้าต่อรถจากหน้าด่านเปนรถฮุนได แบบที่ผมไป 3000 น่าจะพอหาได้อยู่ครับ

ตอบกลับ
sasina June 19, 2013 at 11:20 am

อยากได้ เบอร์ติดต่อรถเช่าค่ะ จะไป 21-24 กค.56 ติดต่อทัวแพงมาก สนใจรถเช่าค่ะ มีเบอร์ใหมค่ะ

ตอบกลับ
admin June 22, 2013 at 2:38 pm

จริงๆ ไม่อยากบอกว่าผมก็พยายามหาเบอร์รถเช่าให้อยู่เหมือนกันครับ เพราะข้อมูลตอนไปมันหลายปีแล้วครับ อันนี้ต้องขอโทษล่วงหน้าก่อนเลย ส่วนเรื่องรถตู้เช่า ผมแนะนำลองหาดูในเนตอะครับ ลองคุยติดต่อเรื่องราคากันดูครับ ผมไม่อยากแนะนำใครเป็นพิเศษ เพราะผมไม่ได้ไปเอง ส่วนราคาผมลองหาดูแล้ว ตอนนี้มี 2 ประเภท เริ่มจากหนองคาย ถ้าเป็นรถตู้ลาวเป็นรถฮุนไดเหมือนที่ผมไปวันละ 4000-5000 บาท ถ้าเป็นรถตู้คอมมูเตอร์จากไทย วันละ 4,500-5,500 บาท ราคาที่ผมบอกรวมน้ำมันแล้วครับ ยังไงต้องขอโทษทุกคนมา ณ ที่นี่ด้วยครับ สำหรับเรื่องเบอร์ติดต่อรถเช่าครับ แล้วจะรีบหามาลงให้ครับ

ตอบกลับ

แสดงความคิดเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.