เที่ยวกาญจนบุรี ออนเซ็น ด้วยตัวเอง
วางแผนเดินทางกันก่อน
แผนการเดินทาง ครั้งนี้ผมเลยวางแผนเที่ยวกาญจนบุรี ครั้งนี้ เริ่มต้นเดินทางไป วัดถ้ำเสือ แล้วเดินทางต่อไปพักที่ ริเวอร์แคว วิลเลจ 1 คืน ความพิเศษของที่พักแห่งนี้คือ มีบ่อน้ำร้อนออนเซ็นให้แช่ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างยิ่ง ส่วนขากลับแวะเที่ยว สะพานข้ามแม่น้ำแคว รายละเอียดติดตามอ่านกันต่อเลยจ้า…
การเดินทางวันแรก
เริ่มต้นเช้าวันนี้ เดินทางจากบ้าน ด้วยรถยนต์ เดินทางมาจุดหมายแรกของวันนี้ คือ วัดถ้ำเสือ ตามแผนที่ด้านล่างครับ
น่าเสียดายวันนี้ผมไม่ได้แวะวัดถ้ำเขาน้อย ยังไงรอบหน้าเจอกันนะครับ ทางขึ้นวัดสามารถเดินขึ้นบันไดร้อยกว่าขั้น หรือสามารถนั่งรถราง เสียค่ารถราง 20 บาท นั่งชิวๆ แบบสบายอารมณ์ได้ครับ ส่วนบรรยากาศภายใน วัดถ้ำเสือ ครับ
หลังจากเที่ยววัดกันได้หนำใจเป็นที่เรียบร้อย เดินทางต่อไปยังที่พักของทริปนี้ ได้แก่ ริเวอร์แคว วิลเลจ ซึ่งทริปนี้นอนค้างคืนเดียว บรรยากาศภายในห้องพัก เป็นเตียงใหญ่ เปิดม่านมาเห็นวิวแม่น้ำ ทำให้เหมือนอยู่ใกล้ธรรมชาติ ฟินกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
สำหรับท่านใดที่ยังไม่รู้ว่าจะไปพักที่ไหนดี ลองเปรียบเทียบราคาก่อนได้ที่ https://www.traveloka.com/th-th/hotel/thailand/city/mueang-kanchanaburi-district-10000655
หลังจากเก็บข้าวของสัมภาระกันเรียบร้อยแล้ว มาเดินสำรวจที่พักกันบ้างดีกว่าครับ มีทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สวนสวย รู้สึกสบายเหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆเลย
นั่งเรือข้ามมาอีกฝั่งแม่น้ำเป็นส่วนของ Rock Valley Hot Spring & fish Spa ซึ่งประกอบด้วยบ่อน้ำร้อน จำนวน 14 บ่อ สำหรับผ่อนคลายครับ
ซึ่งประกอบด้วยบ่อน้ำร้อน จำนวน 14 บ่อ สำหรับผ่อนคลายครับ
บ่อที่ 1. บ่อน้ำแร่ร้อน อุณหภูมิ 40-42 องศาเซลเซียส
บ่อที่ 2. บ่อน้ำแร่ร้อน อุณหภูมิ 38-40 องศาเซลเซียส
บ่อที่ 3. บ่อน้ำแร่ร้อน อุณหภูมิ 38-40 องศาเซลเซียส
บ่อที่ 4. บ่อน้ำปลาบำบัด
บ่อที่ 5. บ่อน้ำแร่ร้อนสมุนไพรไทย
บ่อที่ 6. บ่อน้ำแร่อุณหภูมิปกติ
บ่อที่ 7. บ่อน้ำ ชาไทย
บ่อที่ 8. บ่อน้ำหมอปลาบำบัด
บ่อที่ 9 บ่อน้ำ ดอกอัญชัน
บ่อที่ 10 บ่อน้ำ เปลือกส้ม / มะกรูดใบ / ใบโหระพา
บ่อที่ 11 บ่อน้ำกระเจี๊ยบแดง
บ่อที่ 12 บ่อน้ำกาแฟ
บ่อที่ 13 บ่อน้ำยูคาลิปตัส
บ่อที่ 14 บ่อน้ำนม
หลังจากที่เดินถ่ายบ่อน้ำทั้งหมดกันแล้ว มาชมบรรยากาศโดยรอบพื้นที่บ่อน้ำทั้งหมดกันครับว่ามีขนาดยิ่งใหญ่ขนาดไหนครับ
นอกจากบ่อน้ำร้อนแล้ว ยังมีการพอกโคลน นวดตัว ปั่นจักรยานอีกด้วยครับ
หลังจากแช่บ่อน้ำจนตัวเปื่อยกันหนำใจแล้ว ได้เวลานั่งเรือกลับที่พักให้สบายตัวกันแล้วครับ
หลังจากเข้านอนเล่นนั่งเล่นกันชิวๆแล้ว ได้เวลารับประทานอาหารมื้อเย็นกัน แล้วขอนอนพักผ่อนเก็บของเตรียมตัวกลับกรุงเทพกันครับ
การเดินทางวันที่สาม (วันสุดท้ายของการเดินทาง)
การเดินทางวันสุดท้ายของทริปนี้ เริ่มต้นจากการตื่นเช้ามารับประทานอาหารเช้ากันที่โรงแรม พร้อมทั้งเดินสำรวจบริเวณด้านหน้าก่อนเช็คเอ้าท์เดินทางกลับกันครับ
สถานที่แรก หลังจากเดินทางออกจากโรงแรม ได้มาแวะเที่ยว วัดเสือ ของหลวงตามหาบัวญาณสัมปันโน ตั้งอยู่ ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
วัดนี้ได้สถาปนาขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2537 โดยเริ่มจากชาวบ้านช่วยลูกเสือซึ่งแม่มันถูกฆ่าจากนายพรานและนำมาที่วัด เจ้าอาวาสรับไว้ในขณะที่ไม่มีใครรับ และเอาใจใส่เลี้ยงดูเหมือนเป็นลูก ๆ จึงเป็นที่มาของวัด โดยตั้งใจให้เป็นที่พักพิงของสัตว์ป่าที่บาดเจ็บหรือขาดพ่อแม่ทั้งหลาย และได้รับการเลี้ยงดูแบบชาวพุทธที่ดี เช่น เมื่อบรรดาเสือแสดงอากัปกิริยาที่ไม่ดีมีการร้องคำรามขู่ พระที่เลี้ยงก็จะเอาน้ำสาดจากขวดพลาสติก หรือหาอะไรปิดตาเสือเหล่านี้ไว้ เมื่อมีวัวหรือแพะเดินผ่านมาใกล้ ๆ
เสือในวัดเป็น เสือโคร่งอินโดจีน (Panthera tigris corbetti) ซึ่งเสือโคร่งที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย, ลาว, พม่า, กัมพูชา, เวียดนาม, มาเลเซีย และจีนด้านตะวันออก มีจำนวน 17 ตัวที่วัด เป็นเสือกำพร้าที่ได้ช่วยชีวิตมาจากป่าเจ็ดตัว และอีกสิบตัวเกิดที่วัดนี้ (ข้อมูล เดือนธันวาคม 2548)
นิตยสารไทม์ฉบับวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ได้ยกย่องให้วัดป่าหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดสำหรับการอยู่ร่วมกันโดยสันติ ซึ่งหมายถึงการที่ทางวัดสามารถนำเสือที่เป็นสัตว์ดุร้ายมาอยู่ร่วมกับคนได้โดยไม่เกิดอันตราย
ได้เวลาอาหารมื้อเที่ยงกันแล้ว มื้อเย็นเลือกทานอาหารไทย ชื่อร้านอาหาร คีคี ธารา เป็นร้านอาหารบรรยากาศชิวๆ ริมแม่น้ำแควครับ
สถานที่ต่อไปเป็นจุดสุดท้ายของทริปนี้ ซึ่งหาไปจังหวัดกาญจนบุรีแล้วไม่ได้แวะคงไม่เห็นจะได้ สะพานข้ามแม่น้ำแคว ถ้าไม่ได้ขับรถมา สามารถเดินทางโดยการนั่งรถไฟมาได้อีกทางครับ
หลังจากเดินเที่ยวกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้เวลาเดินทางกลับที่พักแล้วจ้า สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้าอ่านกันนะครับ
ส่วนทริปต่อไปจะเดินทางไปไหนกัน ติดตามชมเพิ่มเติมกันได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/TeawMuNDotCom/