เที่ยวเชียงใหม่ ดอยสุเทพ ด้วยตัวเอง
วางแผนเดินทางกันก่อน
การเดินทางไปเชียงใหม่ครั้งนี้ มีเวลาเที่ยวเพียง 3 วัน 2 คืน พักตัวเมืองเชียงใหม่ ย่านนิมมานต์เหมินต์ ทั้ง 2 คืนสำหรับที่พักทริปนี้ ให้บริการผ่าน agoda.com เว็บนี้ ส่วนตัวผม แนะนำเลยนะ อาจจะเจอแพงกว่าเว็บอื่นบ้าง แต่เว็บนี้มีดีตรงที่สามารถอ่านคอมเม้นต์คนที่ไปมาแล้วได้ล่วงหน้าสำหรับตัดสินใจได้ก่อนจองครับ
ส่วนแผนการเดินทาง วันแรกเดินทางเที่ยววัดในตัวเมือง แล้วเดินเล่นถนนคนเดินท่าแพ วันที่สองเที่ยวดอยสุเทพเต็มวัน วันที่สามวันสุดท้าย เดินเล่นย่านนิมมานต์เหมินต์ แล้วแวะซื้อของฝากที่ตลาดวโรรสก่อนเดินทางกลับกรุงเทพช่วงเย็นครับ ด้วยงบประมาณไม่เกินคนละ 3,500 บาท
เดินทางวันแรก
การเดินทางมาเชียงใหม่วันนี้ใช้บริการ #สายการบินแอร์เอเชีย ออกจากสนามบินดอนเมือง 11.50 น. ถึงสนามบินดอนเมือง 13.05 น.
ถึงสนามบินเชียงใหม่ ใช้บริการรถแท๊กซี่จากสนามบินมายังที่พัก 160 บาท ใช้เวลาประมาณยี่สิบนาที ก็ถึงที่พักของการเดินทางนี้ ซึ่งผมเลือก เดอะ สตอรี่ โฮเทล (The Story Hotel) 30/4 ซอยนิมมานเหมินทร์ 10 ถนนนิมมานเหมินทร์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง, นิมมานเหมินทร์, เชียงใหม่, ประเทศไทย 50200 (ดูแผนที่)
สำหรับใครที่หาที่พักย่านนิมมานเหมินต์ในราาไม่เกินพันบาท แนะนำที่นี่เลยครับ พนักงานใจดี มีมาม่า ชา กาแฟ บริหารให้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมงด้วยครับ มาชมสิ่งอำนวยความสะดวกสบายในห้องพักกันบ้างครับ
หลังจาก Check-in เก็บกระเป๋าเดินทางกันเรียบร้อยแล้ว ได้เวลาเที่ยวกันแล้วจ้าา ซึ่งเดินทางมาเหนื่อยๆ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ก่อนอื่นเลยเดินหาร้านอาหารกินกันก่อนเลยจ้า เดินเข้ามาซอยนิมมานเหมินต์ 1 มาเจอร้านข้าวซอยไม่เล็กไม่ใหญ่มาก แต่รับรองเรื่องรสชาติว่าอร่อยแน่นอนครับ
อิ่มท้องกันแล้ว ได้เวลาเที่ยวกันแล้วจ้า ใช้บริการสองแถวแดงเชียงใหม่ ซึ่งจากประสบการณ์มาเชียงใหม่มาหลายครั้ง ผมแนะนำเทคนิคง่ายๆ ให้บอกจุดหมายปลายทาง เช่น ไปวัดพระสิงห์ไหมครับ ถ้าคนขับรถบอกไป ไม่ต้องถามราคาครับ โดดขึ้นเลยครับ ตอนลงก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก จ่ายคนละ 20 บาทพอ ถ้าเกิน 20 บาท ทางคนขับรถจะบอกราคาตั้งแต่ตอนขึ้นครับ
ก่อนเที่ยววัดตัวเมืองเชียงใหม่ ผมเอาแผนที่สำหรับเดินเที่ยววัดมาให้ดูเพื่อความเข้าใจมากขึ้นครับ โปรแกรมหลักๆ ก็มี วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร วัดเจดีย์หลวง อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ รวมถึงวัดที่อยู่บริเวณถนนคนเดินท่าแพ ซึ่งบางวัดไม่ปรากฏในแผนที่ครับ
นั่งมาถึงจุดหมายปลายทางแรก คือ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร (คำเมือง: LN-Wat Phrasing Woravihar.png) พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ วัดพระสิงห์ฯ เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ เป็นประดิษฐานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา พระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนรู้จักกันในชื่อ “เชียงแสนสิงห์หนึ่ง”
พระพุทธสิหิงค์ หรือ พระสิงห์ เป็นพระพุทธรูปโบราณหล่อด้วยสำริดหุ้มทอง ปางมารวิชัย สูง 79 เซนติเมตร หน้าตักกว้าง 63 เซนติเมตร
พระเจดีย์และพระอุโบสถก็สวยงามไม่แพ้กัน
หลังจากเที่ยว วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เดินตามถนนราชดำเนินเพื่อมาเที่ยววัดเจดีย์หลวงวรวิหารกันครับ
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เป็นวัดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ปัจจุบันยอดเจดีย์ได้หักพังลงมาเมื่อคราวเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. ๒๐๘๘ วัดเจดีย์หลวงจึงเป็นโบราณสถานอันเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งที่น่าท่องเที่ยว
นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญให้กราบไหว้บูชามากมาย ทั้งพระประธานในพระวิหารหลวง
หลังจากเดินเที่ยวกันจนเหนื่อยจากแสงแดดที่แผดเผา เลยตัดสินใจนั่งหลบร้อน ตากแอร์ กินไอติมที่ร้านเดอะ ทรีซิส ซึ่งอยู่่ตรงข้ามทางเข้าวัดเจดีย์หลวงเลยครับ
กินไอศรีมดับคลายร้อนกันแล้ว แดดเริ่มไม่ร้อนแล้ว เลยออกมาเดินเล่นถนนคนเดินบริเวณประตูท่าแพกันครับ
เดินไปเดินมาเจออนุสาวรีย์สามกษัตริย์เลยยกมือไหว้เอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนครับ
ถัดจากอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เดินมาอีกไม่ไกลมาก จะเจอวัดอินทขิล ภายในมีพระพุทธรูปซึ่งส่วนตัวผมว่าสวยงามมากองค์หนึ่งครับ
ไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้เวลาช๊อปปิ้งและหาของกินถนนคนเดินกันแล้วจ้าา ซึ่งขอบอกเลยว่ามีให้เลือกเยอะมากก
เดินกันจนเมื่อยเติมพลังกันก่อน เลยแวะร้านข้าวต้มบาทเดียว เจ้าเก่าสี่แยกกลางเวียง สั่งแบบเต็มพิกัด ราคาไม่แพง แนะนำเลยครับร้านนี้
อิ่มแล้วเดินเที่ยวกันต่อครับบ
เดินไปโซนประตูท่าแพ มีการแสดงมากมาย ซึ่งน่าสนับสนุนคนไทยที่มีความสามารถอย่างยิ่งครับ
เดินไปเจอวัดพันอ้น ซึ่งทางวัดเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมวัด พร้อมทั้งภายในมีอาหารขายมากมาย เสียดายที่แวะกินมาแล้ว ไม่ง้านได้แวะกินแล้วจ้าา
หลังจากเดินกันจนรู้สึกเมื่อยล้า แทบไม่มีแรงเดินกันทีเดียว เลยตัดสินใจกลับที่พักกันดีกวา เก็บแรงไว้สำหรับเที่ยววันรุ่งขึ้นกันครับ
เดินทางวันที่สอง
การเดินทางวันที่สอง เริ่มต้นจากการเดินสำรวจย่านที่พัก ซึ่งเดินเจอร้านเค้กญี่ปุ่น น่ารักๆ ชื่อว่า ร้าน Mont Blanc ซึ่งมาย่านนิมมานเหมินต์ทีไรไม่พลาดจะแวะร้านนี้ทุกครั้ง รวมถึงครั้งนี้ด้วย เลยจัดการสั่งน้ำพร้อมขนมมาทานรองท้องกันก่อนครับ
นั่งรถสองแถวแดงจากนิมมานเหมินต์มาบริเวณท่ารถสองแถวแดงขึ้นดอยสุเทพ ซึ่งราคาไปกลับ มี 3 ประเภท ตามสถานที่จะไป แต่ผมเลือกไปแค่ดอยสุเทพเลยเสียค่ารถไปกลับ 80 บาท ต้องนั่งรถให้ครบ 10 คน ซึ่งไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้วครับ
นั่งสองแถวประมาณครั้งชั่วโมงก็มาถึงจุดปลายทางของเราวันนี้ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร (คำเมือง: LN-Wat Phra That Doi Suthep.png) เป็นพระอารามหลวง ชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร ตั้งอยู่บนยอดดอยสุเทพ เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญมากที่สุดของจังหวัดเชียงใหม่ ทางขึ้นเป็นบันไดนาคเจ็ดเศียรก่อปูน
ก่อสร้างตามแบบศิลปะล้านนา มีเจดีย์ทรงเชียงแสน ฐานสูงย่อมุมระฆังทรงแปดเหลี่ยมปิดด้วยทองจังโก 2 ชั้น
ลานเจดีย์เป็นจุดชมทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ซึ่งมีการก่อสร้างบางส่วนซึงยังไม่เสร็จสมบูรณ์ครับ
จากการเดินทางกลับจากดอยสุเทพลงมาบริเวณนิมมานเหมินต์เลยแวะเที่ยว Think Park ของคุณตัน ไอดอลของผมและใครหลายๆคนด้วยครับ
เดินทางข้ามฝั่งมาห้าง MAYA หาอาหารกินรองท้องกันซะหน่อยครับ ซึ่งเดินวนอยู่นาน มาจบด้วยร้าน จันทร์เจ้าข้าวซอยครับ
อิ่มหนำสำราญกันแล้ว กลับไปถ่ายรูปบรรยากาศที่พัก เพื่อเตรียมออกท่องราตรีกันครับ
หลับเอาแรงกันพักใหญ่ได้เวลาท่องราตรีกันแล้วครับ วันนี้ขอเสนอร้านดังใกล้ๆที่พักของเรา ได้แก่ ร้าน Worm up ครับ
ภายในร้านแบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนภายนอกเป็นร้านอาหารมีดนตรีชิวๆ ส่วนที่สองคือโซนภายในเป็นผับมีดนตรีแบบมันส์ๆ ซึ่งผมเลือกนั่งโซนภายใน ค่อนข้าง 18+ ราคาก็ไม่แพงมากจ้า
การเดินทางวันที่สาม วันสุดท้าย
การเดินทางเที่ยววันที่สามนี้ ไม่ได้ไปไหนเลย เนื่องจากเมื่อคืนท่องราตรีดึกไปไหน เลยตื่นซะเกือบสิบเอ็ดโมงเลย อาบน้ำเที่ยงพอดี ท้องร้องเลย Check-out จากโรงแรม
โปรแกรมแรกคือการหาของกินแถวนิมมานเหมินต์ เลยตัดสินใจเข้าซอย นิมมานเหมินต์ 17 เพื่อมากินข้าวเที่ยงที่ร้านคุณหมอครูซีนครับ
กินของคาวกันเสร็จแล้ว ไหนๆก็เข้ามาในซอยนี้แล้วจะไม่แวะร้านไอเบอรี่ ก็ยังไงอยู่ แวะกินไอศครีมกันหน่อยแล้วกันครับ
อิ่มหนำสำราญทั้งอาหารคาวและของหวานกันเรียบร้อยแล้ว โปรแกรมสุดท้ายของทริปนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากซื้อของฝากกับบ้านกันที่กาดหลวง หรือตลาดวโรรสครับ
ร้านแนะนำ คือร้านดำรงค์ ร้านที่ผมมาเชียงใหม่ทีไรก็ต้องแวะซื้อของฝากร้านนี้ทุกครั้งครับ แคปหมู 3 ถุง 100 บาท น้ำพริกหนุ่มมีราคาตั้งแต่ถุงเล็กราคา 20 บาท แต่ถ้าจะให้เหมาะกับแคปหมู 3 ถุงร้อย ก็ต้องน้ำพริกหนุ่มถุงละ 40 บาทเลยจ้า ไส้อั่วกิโลกรัมละ 360 บาท รอบนี้จัดแบบเบาๆ หมดค่าของฝากไป 500 บาทพอดีเลยครับ
หลังได้ของฝากกันเรียบร้อย นั่งรถสองแถวแดงเข้าสนามบินคนละ 50 บาท เพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพเป็นอันสิ้นสุดการเดินทางทริปเชียงใหม่ในครั้งนี้แล้วครับ
ส่วนแผนการเดินทางพร้อมงบประมาณไม่เกินคนละ 3,500 บาท ถ้าท่านใดต้องการแบบไฟล์ PDF สามารถคลิก ที่นี่ ได้เลย
สุดท้ายขอบคุณทุกท่านที่มาติดตามอ่านกันนะครับ อาจไม่ถูกใจบางคนบ้าง ยังไงก็ขอบคุณทุกท่านมากครับ ^^
ส่วนทริปต่อไปจะเดินทางไปไหนกัน ติดตามชมเพิ่มเติมกันได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/TeawMuNDotCom/