เที่ยวกระบี่ด้วยตัวเอง
วางแผนเดินทางกันก่อน
แผนการเดินทางเที่ยวกระบี่ครั้งนี้ ไม่มีอะไรมากมาย นึกอยากเที่ยวก้อจองตั๋วเลย เนื่องจากได้ตั๋วราคาไม่แพง แต่ติดตรงเวลาเที่ยวครั้งนี้ มีเวลาเที่ยวกระบี่แค่ 2 วัน 1 คืนเท่านั้น เลยเตรียมตัววางแผนเที่ยวค่อนข้างรัดกุมกับเวลานิดนึงครับ โดยจองเรือหางยาวแบบเหมาในราคา 2,200 บาท ต่อ 3-4 คน โดยให้ไปรับส่งที่โรงแรมด้วย คุ้มค่าทีเดียวครับ และจองรถเที่ยวในราคา 1,900 บาท ต่อ 3-4 คน พร้อมไปส่งที่สนามบินด้วย คุ้มอีกแล้วงานนี้ ส่วนรายละเอียดการท่องเที่ยวติดตามกันต่อด้านล่างเลยครับ
เดินทางวันแรก
การเดินทางไปเที่ยวกระบี่ครั้งนี้ใช้บริการ สายการบินแอร์เอเชีย เดินทางถึงจังหวัดกระบี่ ประมาณ 10.00 น.
จากนั้นเดินทางต่อไปอ่าวนางด้วยรถ Shutter Bus ในราคา 150 บาทครับ เดินทางเข้าที่พักของการเดินทางครั้งนี้ อ่าวนาง คลิฟฟ์ บีช รีสอร์ท (Aonang Cliff Beach Resort) 328 หมู่ 2 ตำบล อ่าวนาง อำเภอเมือง , อ่าวนาง, กระบี่, ประเทศไทย 81000 (ดูแผนที่)
นั่งรถ Shutter Bus มาประมาณ 45 นาที เดินทางถึงที่พักระหว่างทางฝนตกตลอดทางเลย แล้ววันนี้จะได้เที่ยวสนุกไหมน้ออ
ฝากกระเป๋าไว้ที่พัก แล้วเตรียมชุดสำหรับลงเล่นน้ำไว้เต็มที่ สำหรับการเที่ยวทะเล โดยวันนี้เหมาเรือสำเล็ก ซึ่งราคาทั่วไปจะอยู่ที่ 1,700 บาท สำหรับทัวร์ 2 เกาะ เกาะปอดะ ทะเลแหวก แต่ผมเลือกทัวร์ 4 เกาะ ไปอ่าวนางด้วย แถมยังเพิ่มบริการรถรับส่งที่พัก 2,200 บาท ของ Aonangboat (087-274-2036) ซึ่งผมถือว่าไม่แพงเลย เพราะไหนจะไปรับส่งเราที่พัก แล้วลงเรือที่หาดนพรัตนธาราพาเที่ยวด้วย
จุดแวะเที่ยวแรก คือ อ่าวนาง เป็นจุดแรกที่ถือว่าสวยมาก เป็นจุดที่มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวปีนหน้า มีชายหาดสำหรับเล่นน้ำทะเลแต่ช่วงนี้มรสุมลมแรงคลื่นเลยน่ากลัวไปบ้างครับ
หลังจากเที่ยวอ่างนางเป็นเวลาอันสมควรแล้ว โปรแกรมต่อไปคือเกาะปอดะ วันนี้คลื่นลมแรงมาก ผมขอแนะนคนที่จะเที่ยวทะเลช่วงมรสุมแนะนำให้ไปเที่ยวช่วงปกติดีกว่าครับ ไม่เสี่ยงกับเสียวกับคลื่นทะเลที่ซัดโถมลำเรือด้วยครับ
หลังเรือแล่นต้านคลื่นลมทะเลประมาณสามสิบนาที ก็ถึงจุดหมายต่อไปก็คือเกาะปอดะ แล้วจ้าา
เสียดายวันนี้ที่เมฆฝนครึ้มทำท่าเหมือนฝนตก แล้วเวลาเลยไม่ทันดูทะเลแหวกตอนห้าโมง เลยตัดสินใจกลับชายฝั่งหาดนพรัตนธารา เพราะความกลัวจะคลื่นสูงจะเป็นอันตรายและเสี่ยงต่อการเดินทางด้วย ไว้เจอกันโอกาสหน้านะจะทะเลแหวก รับรองต้องมีทริปแก้ตัวแน่นอนครับ
หลังจากกลับฝั่งด้วยสภาพเปียกปอนด์ไปทั้งตัวเ ได้เวลากลับเข้าที่พัก อ่าวนาง คลิฟฟ์ บีช รีสอร์ท (Aonang Cliff Beach Resort) เพื่ออาบน้ำอาบท่า พักผ่อนเอาแรงไว้ลุยต่อพรุ่งนี้ครับ
เดินทางวันที่สอง
การเดินทางวันนี้ ใช้บริการเช่ารถพร้อมคนขับ พร้อมเงื่อนไขที่ไปส่งเราขึ้นสนามบินตอนห้าโมงเย็นด้วย สนนราคาเบาๆ 1,900 บาท รวมค่าน้ำมัน พร้อมคนขับ ข้อมูลล่าสุดตามนี้ ถ้ายังไงลองเช็คราคาเพื่อจองรถอีกครั้งก่อนเดินทางที่คุณมน (085-935-9329) ซึ่งจากการหาข้อมูลทุกราย ถือว่าได้ราคาไม่แพงครับ เพราะโปรแกรมที่สามารถเที่ยวได้คือวัดถ้ำเสือ สระมรกต น้ำตกร้อน แต่เที่ยวจริงๆ ได้ไปแค่วัดถ้ำเสือ เพราะอะไรรอติดตามชมกันครับ
ใช้เวลาเดินทางจากที่พักของเรามาที่วัดถ้ำเสือ ฝนตกหนักมาก เลยใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที จอดรถเรียบร้อย บอกพี่คนขับรถว่าขอเวลาเที่ยวซักชั่วโมงครึ่ง แกก้อใจดีไม่ติดขัดอะไรครับ
จุดแรกคือบริเวณด้านหน้าของวัดถ้ำเสือ มีพระสงฆ์ให้ผู้คนทำบุญถวายสังฆทาน และมีถ้ำเสือที่ไปที่มาของวัดนี้ครับ
เดินเข้ามาด้านในวัดจะเจอกับองค์เจ้าแม่กวนอิมให้ผู้คนขอพรกับท่านอยู่ครับ
มาถึงจุดสุดยอดของการเที่ยววัดถ้ำเสือแห่งนี้ คือการเดินขึ้นไปชมวิวบนยอดเขา จำนวน 1273 ขั้น ใช้เวลาเดินขึ้น ประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ถึง สองชั่วโมงครับ เดินแบบชิวๆ พักถ่ายรูปด้วย พักเหนื่อยด้วย
เดินขึ้นมาด้านบนจะเจอกับเจดีย์พร้อมทั้งองค์พระใหญ่ ซึ่งเป็นแรงศรัทธาของชาวพุทธที่ขึ้นมาสร้างบนยอดเขานี้ เพราะแค่ขนาดเดินขึ้นมายังหอบแฮกๆ เลย แต่ขึ้นมาถึงบนยอดแล้ว เห็นวิวสวยๆ แล้วหายเหนื่อยทีเดียวครับ
ใช้เวลาเดินลงอีกครึ่งชั่วโมง รวมเวลาอยู่วัดถ้ำเสือ เกือบสี่ชั่วโมง เลยอดไป สระมรกต น้ำตกร้อน จึงเปลี่ยนแผนไปเที่ยวตัวเมืองกระบี่ใกล้ๆ พร้อมทั้งหาร้านอาหารกินข้าวก่อนเดินทางกลับแทนครับ เริ่มต้นด้วยถ่ายรูปกับรูปปั้นปูดำ ใจกลางเมืองกระบี่
ตบท้ายด้วยการกินข้าวมื้อกลางวันรวมกับมื้อเย็นที่ร้านอาหารใบเตย เป็นร้านอาหารริมแม่น้ำ อาหารอร่อย แถมเสริฟใส่จานรูปหัวใจน่ารักไปอีกแบบจ้าา
เดินทางกลับสนามบินกระบี่เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพด้สย สายการบินแอร์เอเชีย เดินทางถึงสนามบินดอนเมือง ประมาณ 18.50 น. ถึวแม้เป็นทริประยะเวลาสั้นแต่ถ้าพูดถึงเรื่องได้ไปท่องเที่ยวแล้ว ก็มีความสุขเสมอครับ
ส่วนทริปต่อไปจะเดินทางไปไหนกัน ติดตามชมเพิ่มเติมกันได้ที่
Facebook : http://www.facebook.com/TeawMuN