เที่ยวหาดใหญ่ ปีนัง ด้วยตัวเอง
วางแผนเดินทางกันก่อน
แผนการเดินทาง ครั้งนี้ผมเลยวางแผนเริ่มต้นเดินทางไปหาดใหญ่ 1 คืน นอนพักโรงแรมทูน-หาดใหญ่ (Tune Hotel – Hat Yai) ปีนัง 2 คืน นอนพัก เกสท์ อินน์ มันทรี (Guest Inn Muntri) เลยจองที่พัก ผมจองผ่าน agoda.com เว็บนี้
เดินทางวันแรก
เนื่องจากตั๋วเครื่องบินถูกอีกแล้ว เลยหาเรื่องเที่ยวซะเลย ทริปนี้เลยวางแผนลงไปหาดใหญ่ ถึงสนามบินด้วยความหิวโซ เลยจัดเบอร์เกอร์ปลา ราคาสองร้อยกว่าบาทแพงเอาเรื่องอยู่ แต่หิวเนอะ จัดไปปป ^_^
เดินทางจากสนามบินดอนเมือง 15.45 น. ใช้เวลาเดินทางถึงหาดใหญ่ 1 ชั่วโมง 25 นาที ถึงหาดใหญ่ 17.10 น.
นั่งรถตู้จากสนามบินไปที่พัก โรงแรมทูน-หาดใหญ่ (Tune Hotel – Hat Yai) ค่ารถตู้คนละ 100 บาทครับ
โรงแรมทูน-หาดใหญ่ (Tune Hotel – Hat Yai) ค่าห้อง 814 บาท ห้องดับเบิล (Double)
152-156 ถนน นิพัทธ์ อุทิศ 2 , หาดใหญ่ เซ้นทรัล, หาดใหญ่, ไทย (ดูแผนที่)
หลังจากเก็บข้าวของที่พักเรียบร้อยแล้ว ได้เวลากินติมซำ ร้านอาหารคอหนังแต้เตี้ยม ติมซำเข่งละ 14 บาท บักกุ๊ดเต๋กระดูกอ่อนใส่เยื่อหน่อไม้ ชาเย็น รวมค่าเสียหาย 188 บาท
กินของคาวกันแล้วต้องตบท้ายด้วยของหวาน เป็นร้านรถเข็นริมทางเดิน ผมใส่รังนก ป้าแกใจดีแถมแป๊ะก๊วย ลูกชิด ลูกบัว สนนราคา 100 บาท
เดินทางวันที่สอง
เดินทางขึ้นรถตู้ ขึ้นถนนนิพัทธ์อุทิศ ซอย 1 สามารถดูแผนที่ ที่นี่ครับ หรือสามารถให้รถมารับที่หน้าที่พัก โรงแรมทูน-หาดใหญ่ (Tune Hotel – Hat Yai) ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มครับ
จองรถตู้รอบ 09.30 ค่าโดยสารขาละ 400 บาท แต่ผมจองแบบไปกลับค่าโดยสาร 750 บาท
เข้ามาเลเซียผ่านทางด่านสะเดา เสียค่าธรรมเนียมให้รถตู้อีกคนละ 10 บาท จากนั้นข้ามไปด่านมาเลเซีย ต้องแบกสัมภาระผ่านเครื่องตรวจสัมภาระเพื่อหาวัตถุอันตรายที่เป็นภัยต่อประเทศครับ
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ถึงปีนัง 14.30 น. เพราะเวลาที่มาเลเซียจะเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงครับ
ก่อนเข้าปีนัง จะผ่านสะพานข้ามทะเลที่ถือว่ายาวที่เป็นอันดับ 3 ของโลก ยาว 8.5 กิโลเมตร
เดินทางไปที่พัก เกสท์ อินน์ มันทรี (Guest Inn Muntri)
ที่พักอยู่ใกล้ที่ลงรถตู้ บริเวณโรงแรม Oasis เลยครับ
หรือบอกรถตู้ว่าลงถนน Lorong Love ปากทางเข้าถนนมีเซเว่นอยู่ครับแล้วเดินมาในซอยข้างเซเว่นแล้วเลี้ยวซ้ายแยกแรก ตรงมาอีกประมาณหนึ่งร้อยเมตร ที่พักอยู่ซ้ายมือครับ
เกสท์ อินน์ มันทรี (Guest Inn Muntri) ค่าห้องคืนละ 498 บาทต่อคืน เป็นเตียงเดี่ยว แชร์ห้องน้ำ มีอาหารเช้า เป็นขนมปังปิ้ง ไส้กรอก แต่ชากาแฟน้ำเย็นมีบริการฟรีตลอดทั้งวัน ราคาค่อนข้างประหยัดมากเลยครับ
17, Muntri Street, จอร์จทาวน์, ปีนัง, มาเลเซีย 10200 (ดูแผนที่)
หลังจากเก็บข้าวของเสร็จแล้ว ได้เวลาหาข้าวกิน เพราะหิวมากเลย ระหว่างทางผ่านวัดใกล้ๆที่พัก สวยดีครับ เลยแวะถ่ายรูปมาให้ดูครับ
เดินตระเวนเส้น Lebah Chulia เหมือนภูเก็ตบ้านเราไม่มีผิด
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เดินเจอร้านข้าวมันไก่ ไม่รอช้าที่จะเข้าไปรับประทาน จริงๆแล้ว จังหวะนั้นเจออะไรก็กินหมดแล้วครับ
เมนูวันนี้ ข้าวมัน แยกไก่ต่างหาก พร้อมเป๊ปซี่หนึ่งกระป๋อง ค่าเสียหาย 6 RM ถือว่าไม่แพงเลยทีเดียว
หลังจากอิ่มแล้ว จุดหมายปลายทางแรก คือ วัดไชยมังคลาราม การเดินทางไปโดยนั่งรถเมล์ สาย 101 ค่าตั๋ว 1.60 RM
จากแผนที่ด้านบนให้ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามเซเว่นจะมีป้ายรถเมล์อยู่ครับ
การขึ้นรถเมล์ที่ปีนัง มีเทคนิคง่ายๆ เพื่อความรวดเร็วในการขึ้นเพราะคนขับบางคนจะงง หากบางสถานที่ไม่คุ้นชื่อครับ เตรียมเหรียญแล้วบอกค่าโดยสารเลยครับ
ถึงป้ายรถเมล์ที่จะลงแล้ว จะเห็นเซเว่นด้านซ้าย เดินข้ามถนนแล้วเลี้ยวขวา ก็จะเจอวัดอยู่ด้านซ้ายแล้วครับ
ถึงวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วัดนี้เหมือนวัดที่เผยแพร่ประเพณีวัฒนธรรม รวมทั้งสอนภาษาไทยด้วยครับ
หลังจากเที่ยวเสร็จแวะกินไอศครีมของคนไทย อร่อยดีครับ
จุดหมายปลายทางที่สอง คือ วัดพม่า Dhammikarama Burmese Temple ตรงข้าม วัดไชยมังคลาราม ครับ
หลังจากเที่ยวมาทั้งวันแล้ว กลับที่พักเอาแรง โดยนั่งรถเมล์สาย 103 สายเดิมกลับที่พักครับ
จุดหมายปลายทางที่สาม คือ ไปเดินเล่นใกล้ที่พัก เดินเที่ยวถ่ายรูปช่วงยามเย็น ชมหอนาฬิกา Queen Victoria Memorial Clocktower, โบสถ์ St George
หลังจากเดินเที่ยวมาจนเหนื่อยได้เวลา นั่งชิวร้านอาหาร อยู่ใกล้ที่พักมากครับ เลยสั่ง คาโบนาร่าทะเล พร้อมเครื่องดื่มแก้กระหายสดชื่นมากๆเลย ^_^ ***เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรได้รับคำแนะนำ***
เดินทางวันที่สาม
จุดหมายปลายทางแรก คือ นั่งรถเมล์สาย 204 ไป Penang Hill ค่าตั๋วรถเมล์ 2 RM นั่งมาสุดสาย ไม่ต้องคิดรายมากครับ
ซื้อตั๋วรถรางขึ้น Penang Hill ราคา 30 RM
บรรยากาศด้านบน Penang Hill เดินแปบเดียวก็หมดแล้วครับ ขอบรรยากาศด้วยรูปแล้วกันนะครับ
หลังจากเที่ยว Penang Hill เสร็จแล้ว จำเป็นต้องกลับมาที่พักก่อนเนื่องจากเมื่อคืนลืมชาร์ตแบตไว้ครับ
จุดหมายปลางทางที่สอง คือ เดินทางไปวัด Kek Lok Si โดยนั่งรถเมล์สาย 203 ค่าตั๋วรถเมล์ 2 RM ลงป้ายรถเมล์ แล้วเดินเลี้ยวซ้ายตรงเข้าซอกตึกซึ่งมีร้านค้ามากมาย ผ่านศาลาเต่าเป็นอันถึงแล้วครับ หรือถ้าใครมาจาก Penang Hill สามารถนั่งรถเมล์สาย 204 มาสามป้าย แต่ต้องเดินข้ามถนนมาฝั่งตรงข้าม เดินเลี้ยวขวามา จะเจอป้ายรถเมล์เดียวกับ สาย 203 แล้วเดินมาวิธีเดียวกันเลยครับ
พอลงรถเมล์แล้ว จะมีทางเดินข้างร้านที่มีผ้าใบสีแดง เดินไปตามทางเรื่อยๆครับ
จะมีป้ายบอกทางตลอด ไม่ต้องกลัวหลงครับ
จะผ่านศาลากลางบ่อเต่า แสดงว่าคุณมาถูกทางแล้วครับ
ผมขอแบ่งโซนวัดเป็น สี่โซน คือ โซนแรก คือ โซนด้านนอกที่จอดรถ
โซนที่สอง คือ โซนถัดมาเป็นที่ประดิษฐานพระหลายองค์เลยครับ
โซนที่สาม คือ โซนด้านในเจดีย์เจ็ดยอด เสียค่าเข้าชม 2 RM
โซนที่สี่ คือ โซนสุดท้ายที่ต้องนั่ง ทางเดินขึ้นลิฟต์ไปทางเดียวกับห้องน้ำครับ
ค่าบริการลิฟต์ 4 RM
บรรยากาศด้านบน มีองค์เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ลมแรง อากาศเย็นสบาย แถมมีศาลาริมน้ำตกให้พักผ่อนด้วยครับ
จุดหมายปลายทางที่สาม คือ Gunnel Drive นั่งรถเมล์สาย 101 ไปลง ค่ารถเมล์ 1.60 RM
พอลงรถเดินมาทาง Gunnel Drive ที่เป็นวงเวียน ข้ามถนนแล้วเดินชิดขวาจะเจอร้านค้ามากมายเลยครับ
พอมาถึงดันเจอฝนตก เจอจำเป็นต้องไปกินที่ห้าง เลยไปสะดุดตาร้านอาหาร Famous Bowl เลยจัดการสั่งข้าวหน้าไก่ย่าง น้ำชามะนาว กับของหวานแบบจัดเต็มเลยครับ
หลังจากอิ่มหนำสำราญกันแล้ว เดินทางกลับที่พัก เกสท์ อินน์ มันทรี (Guest Inn Muntri)
เดินทางวันที่สี่
เดินทางออกจากปีนังไปขึ้นรถตู้รอบ 08.30 น. ถึงหาดใหญ่ 12.00 น.
จุดหมายปลายทางแรก คือ เดินทางเที่ยวตลาดกิมหยง แวะกินข้าว ซื้อของฝาก กลับกรุงเทพ
แล้วเดินทางไปสนามบินหาดใหญ่ โดยมีสองแถวสีฟ้า ใช้บริการ 20 บาท ถึงสนามบินประมาณบ่ายสามครับ
เดินทางจากสนามบินหาดใหญ่ 17.40 น. ใช้เวลาเดินทางถึงสนามบินดอนเมือง 1 ชั่วโมง 25 นาที ถึง 19.05 น.
การเดินทางรอบนี้ สนุกมาก ก่อนจากกัน ผมได้ทำสรุปค่าใช้จ่ายทริปเที่ยวหาดใหญ่ ปีนัง ด้วยตัวเอง
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้าอ่านกันนะครับ ส่วนทริปต่อไปจะเดินทางไปไหนกัน
ติดตามชมเพิ่มเติมกันได้ที่
Facebook : http://www.facebook.com/TeawMuN