เที่ยวเชียงราย เชียงใหม่ ปาย ด้วยตัวเอง

เที่ยวเชียงราย เชียงใหม่ ปาย ด้วยตัวเอง

วางแผนเดินทางกันก่อน

แผนการเดินทางครั้งนี้ เป็นการเที่ยวช่วงปีใหม่ครั้งแรกในชีวิต โดยจองตั๋วเครื่องบินของแอร์เอเชียไปเชียงใหม่ เดินทางตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2555 กลับวันที่ 2 มกราคม 2556 ทริปนี้ผมเลยวางแผนเที่ยวรอบคอบนิดนึง เนื่องจากได้ยินชื่อเสียงเรื่องคนเที่ยวเหนือปีนี้เยอะมาก เลยกลัวไม่มีที่พัก เลยมาลงตัวที่ลงเครื่องที่เชียงใหม่ ต่อรถมาเที่ยวเชียงรายพักที่พัก น้ำทองรีสอร์ท 3 คืน กลับมาเชียงใหม่พัก ที่พัก โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ 1 คืน แล้วไปนอนปายพัก ที่พัก Pine Pai 2 คืน ผมจองผ่าน agoda.com เว็บนี้ ส่วนตัวผม แนะนำเลยนะ อาจจะเจอแพงกว่าเว็บอื่นบ้าง แต่เว็บนี้มีดีตรงที่สามารถอ่านคอมเม้นต์คนที่ไปมาแล้วได้ล่วงหน้าสำหรับตัดสินใจได้ก่อนจองครับ ส่วนเรื่องเที่ยวและการเดินทางของผมมาติดตามกันเลยครับ

เดินทางวันแรก

เริ่มด้วยขึ้นเครื่องด้วยสายการบินแอร์เอเชียมาลงเชียงใหม่ จากนั้นต่อรถทัวร์ GreenBus ค่ารถขาไป 185 บาท ถึงเชียงรายใช้ประมาณ 3 ชั่วโมง ถึง บขส เชียงราย ซึ่งรถจอดทั้ง บขส เก่า และ บขส ใหม่ ถึงเชียงรายเรียบร้อยแล้ว เดินทางเก็บข้าวเก็บของ เข้า ที่พัก น้ำทองรีสอร์ท

ท้องเริ่มร้องแล้วเลยไปกิน ร้านอาหารญี่ปุ่น Tomato Japanese Restaurant ด้วยความอยากกินที่ไม่ได้กินมาตั้งนานแล้ว

ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเดินทางรวมเกือบห้าชั่วโมง วันแรกเลยไม่เดินทางเที่ยวไหนเลย อิอิ ^__^

เดินทางวันที่สอง

เริ่มด้วยขึ้นเที่ยว งานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย บริเวณริมแม่น้ำกก เชียงราย ทั้งวันเลยจ้า

ค่าเข้าชมฟรีครับ ผมเลยนำภาพในงานมาฝากครับ

เดินทางวันที่สาม

เริ่มต้นด้วย ดอยปูไข่ น้ำตกโป่งพระบาท บ่อน้ำพุร้อนโป่งพระบาท ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรม ไปทางด้านหลังราชภัฏเชียงรายประมาณ 7 กิโลเมตรครับ

ถ้าถามความเห็นส่วนตัวผมบริเวณดอยปู่ไข่ ผมว่าไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ครับ มีแต่รีสอร์ท ส่วนทางขึ้นจุดชมวิวถนนก็ไม่ดีอย่างที่คิดไว้ตอนแรกครับ

จุดที่สอง คือ น้ำตกโป่งพระบาท อยู่เลยทางเข้าดอยปูไข่ไปนิดนึงครับ ไม่ไกลมากครับ

จุดที่สาม คือ บ่อน้ำพุร้อนโป่งพระบาท อยู่ก่อนถึงทางเข้าดอยปูไข่ครับ ส่วนตัวผมชอบมากเลยครับ มีห้องน้ำให้แช่น้ำแร่ส่วนตัวด้วยครับ ไม่ต้องไปแช่ออนเซ็นไกลถึงญี่ปุ่นครับ

ค่าบริการแช่น้ำร้อนมีหลายราคาครับ ผมเลือก 50 บาทพร้อมเช่าผ้าเชคตัวกับสบู่ยาสระผมเพิ่มอีก 20 บาท ได้แช่ 30 นาที สบายตัวมากเลยครับ

หลังจากแช่น้ำแร่กันแล้ว สบายตัวกันเลยทีเดียว กลับที่พักเลยพักเอาแรงเพราะพรุ่งนี้ต้องเดินทางไปเที่ยวที่เชียงใหม่กันต่อครับ ^_^

เดินทางวันที่สี่

นั่งรถทัวร์ GreenBus ค่ารถขากลับ 185 บาท ถึงเชียงใหม่ใช้ประมาณ 3 ชั่วโมง ถึง บขส เชียงใหม่ ซึ่งรถจอดที่อาเขต เชียงใหม่เรียบร้อยแล้ว ผมทำการจองรถตู้ไปปายกันก่อน เพราะตอนนี้สามารถจองได้ล่วงหน้าสามวันครับ หลังจากนั้นเดินทางเก็บข้าวเก็บของ เข้าที่พัก โรงแรมเชียงใหม่ภูคำ ห้องแบบเตียงเดี่ยว ราคาที่ผมจองได้ราคา 1,300 บาทครับ

มีทีวี, ตู้เย็น, เน็ต wifi, ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ ยาสระผม, ครีมอาบน้ำ, ถุงคลุมสระผม พร้อมทั้งน้ำอุ่นด้วยครับ

มีรูปห้องพักให้ดูด้วยครับ ^^

หลังจากเก็บข้าวของเสร็จแล้ว เริ่มเที่ยวกันเลยครับ สถานที่แรก คือ วัดพระธาตุดอยสุเทพ วันนี้รถติดนรกแตกมากครับ กว่าจะขึ้นถึงดอยสุเทพได้ เล่นเอาเหนื่อยมากเลยครับ

เดินทางวันที่ห้า

เริ่มต้นด้วยการเดินทางด้วยรถตู้ไปปาย ตั้งแต่ 9 โมงเช้าตามที่ได้จองไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงถึงปายประมาณบ่ายโมงเดินทางเก็บของ ที่พัก Pine Pai อยู่บริเวณถนนคนเดินปายเลย ค่าห้องมีสองราคา ห้องพัดลม 700 บาท ห้องแอร์ 900 บาท

เก็บข้าวของกันแล้ว ได้เวลาเริ่มเที่ยวกันแล้ว เนื่องจากวันนี้ผมยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลยตัดสินใจไปกินข้าวที่ หมู่บ้านสันติชล กันก่อนที่แรก เมนูวันนี้คือขาหมูยูนนาน กับหมั่นโถ่วทอด 2 ลูก อร่อยมากไม่ผิดหวังจริงๆครับ

กินอิ่มหนำสำราญกันแล้ว เที่ยวหมู่บ้านจีนยูนนาน หรือ หมู่บ้านสันติชล กันเลยครับ

พอเที่ยวจุดแรกกันแล้ว ขับรถชิวกันดีกว่าครับ เริ่มด้วยจุดหมายต่อไปครับ วัดพระธาตุแม่เย็น เป็นจุดชมวิวที่สวยจุดนึงของปายครับ

หลังจากนั้นขับรถจักรยานยนต์ชิวเส้นใน ผ่านปางช้างปาย พอดีเห็นช้างกำลังเดินบริการนักท่องเที่ยวเลยแวะถ่ายรูป แต่ส่วนเรื่องราคาไม่แน่ใจเหมือนกันครับ

ขับจนถึงจุดหมายต่อไป โป่งน้ำร้อนท่าปาย ครับ

ได้เวลาออกมาตระเวนเส้นทางหลักกันแล้ว จากแยกเข้าโป่งน้ำร้อนท่าปาย เลี้ยวขวาผ่านจุดแรก สะพานประวัติศาสตร์ปาย เนื่องจากวันนี้คนเยอะมากครับ ผมเลยผ่านจุดนี้ไป จุดต่อไป ร้านกาแฟ ไร่มนตรี ผมแค่แวะถ่ายรูปเท่านั้นเพราะคนเยอะมาก