เที่ยวต่างประเทศ

เที่ยวฮ่องกง กิน เที่ยว ช๊อป ด้วยงบไม่เกิน 30,000 บาท

เที่ยวฮ่องกง กิน เที่ยว ช๊อป ด้วยงบไม่เกิน 30,000 บาท

สวัสดีทุกท่านครับ วันนี้จะพาทุกท่านเดินทางเที่ยวฮ่องกงในช่วงปีใหม่ โดยตั้งงบเดินทางไม่เกิน 30,000 บาท ต่อคนจ้าา การเดินทางครั้งนี้ เที่ยวฮ่องกง ทั้งหมด 4 วันเต็ม โดยโปรแกรมเที่ยวคร่าวๆ ดังนี้จ้าา

วันแรก เที่ยว The Peak และเดินเล่นย่านจิมซาจุ่ย

วันที่สอง เที่ยว Ngong Ping 360 และไหว้พระวัดแชกงหมิว (วัดกังหันลม)

วันที่สาม เที่ยวฮ่องกงดิสนีย์แลนด์เต็มวัน โดยทำการจองตั๋วล่วงหน้ากับ Traveloka ซึ่งสะดวกมากครับ ไม่ต้องไปต่อคิวด้วยจ้าา ถ้าท่านใดสนใจสามารถจองได้จาก https://www.traveloka.com/th-th/activities/hong-kong/product/hong-kong-disneyland-one-day-pass-2001919164724?source=destination-top_things

วันที่สี่ เที่ยวย่านอ่าววิคตอเรีย และย่านเซ็นทรัล จ้าา

เกริ่นมาเยอะแล้ว ได้เวลาเที่ยวกันแล้ว ไปเที่ยวกันเล๊ยยย…..

วันแรกต้องตื่นตั้งแต่ตีสองเพื่อเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะวันนี้ต้องเดินทางไปฮ่องกงตั้งแต่ 6 โมงเช้าเป็นครั้งนึงในรอบปีทีเดียวที่ได้กลับมาเดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิอีกครั้งจ้าา

มาถึงสนามบินอย่างแรกเลยจ้า ไปซื้อซิมสำหรับใช้ในต่างประเทศ จะสามารถซื้อได้ทั้ง Sim2Fly หรือ Dtac Inter ก็ได้ครับ รอบนี้ผมเลยเลือก Dtac Inter เนื่องจากไม่เคยลอง สนนราคา 399 บาท ใช้เนตได้ 4 GB จำนวน 10 วัน ถ้าใช้เกิน 4 GB ความเร็วเนตจะลดลงแต่ยังเล่นได้นะจ๊ะ ส่วนตัวผมว่าโอเคนะ สัญญาณเนตแรงใช้ได้เลย


ทริปนี้เดินทางด้วยสายการบิน Full Service บินสุดหรู ด้วย คาเธ่ย์แปซิฟิก กันจ้าา

ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงนิดๆ ก็เดินทางมาถึงสนามบินฮ่องกงแล้วจ้าา เย้ๆๆๆๆ
อมยิ้ม01

เดินทางถึงสนามบิน อย่างแรกที่ทำ คือการซื้อบัตร Octopus โดยราคาบัตร 150 HK สามารถใช้เงินในบัตรได้ 100 HK อีก 50 HK เป็นค่ามัดจำบัตร ซึ่งผมเติมเงินเข้าไปอีก 100 HK สำหรับเที่ยวในทริปนี้ ซึ่งพอดีเลยจ้าา

ทริปนี้จากตั๋ว Airport Express ไปกลับ จากสนามบินฮ่องกง ไปยังสถานีเกาลูน เพื่อความสะดวกสบายๆ และมีข้อดีตรงขากลับสามารถเข้ามาใช้บริการ In Town Check-In คือการเช็คอินในเมืองได้เหมือนเช็คอินที่สนามบิน แล้วโหลดกระเป๋า เพื่อสามารถเดินตัวปลิวเที่ยวได้ทั้งวันเลยจ้าา

เดินทางไปฝากกระเป๋าที่ โรงแรมซิลกา ฟาร์ อีสท์ (Silka Far East Hotel) นั่งรถไฟมาลง Tsuen Wan Station ทางออก B เดินหาไม่ยากจ้าา
https://www.traveloka.com/th-th/hotel/hong-kong/silka-far-east-hotel-1000000248599

เก็บกระเป๋ากันเรียบร้อย ได้เวลาเที่ยวกันแล้วจ้าา หาของกินกันก่อนที่สถานี Tsim Sha Tsui โดยตั้งใจมากินร้านที่ตราตรึงใจในการมาเที่ยวฮ่องกงเมื่อสามปีก่อน คือ ร้าน The Sweet Dynasty ซึ่งดั้งเดิม

*** ข้อแนะนำสำหรับร้านนี้ บนโต๊ะจะมีน้ำชาวางอยู่บนโต๊ะพร้อมผ้าเย็นอย่าคิดว่าฟรี พวกนี้ถูกรวมราคาแล้ว จะคืนก็สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง สรุปโดนบังคับซื้อ ฉะนั้นน้ำชาบนโต๊ะ กินได้เอาให้คุ้ม ผ้าเย็นก็ใช้ซะ ร้านนี้ค่อนข้างแพง มื้อนี้กินไปประมาณ 400 กว่าเหรียญ โจ๊กที่นี่ชามละ 63 HK$ น้ำชา+ผ้าเย็น 12 HK$ เป็ดย่าง+หมูกรอบ 108 HK$ ขนมจีบกุ้ง 68 HK$ ฮะเก๋า 50 HK$ เต้าหู้ + น้ำผึ้งชุดเล็ก 99 HK$ ถ้าผมจำราคาผิดก็ประทานโทษด้วย ***

อิ่มหนำสำราญกันแล้ว วันนี้ตั้งใจขึ้น The Peak กันจ้า โดยเดินทางไป Central Station เพื่อนั่งรถบัสสาย 15 ประมาณชั่วโมงนึง ก็จะถึง The Peak กันแล้วจ้าา

ลงรถบัสเดินตามฝูงชนเพื่อเดินขึ้นตึกเพื่อชมวิวบนชั้นดาดฟ้าของ The Peak

ซื้อตั๋ว The Peak ในราคา 52 HK$ เพื่อขึ้นไปชั้นดาดฟ้ากันก่อนจ้าา สำหรับท่านใดแนะนำให้มาช่วงเย็นๆหน่อยครับ เพราะได้จะบรรยากาศช่วงกลางวันและช่วงกลางคืน เรียกว่าคุ้มจ้าา

หลังลงมาจาก The Peak แล้ว มาหาเดินช๊อปปิ้งต่อกันที่ย่าน จิมซาจุ่ย ซึ่งมีจุดแนะนำให้สายชอปปิ้งกันจ้าา

จุดแรก ร้าน CKE ซึ่งภายในมีทั้งร้าน SASA และร้านชอปปิ้งอยู่ชั้นบนสุดของตึกจ้า

จุดที่สอง ร้าน WK ภายในมีร้านรองเท้า และนาฬิกาให้เลือกชอปปิ้งกันจ้าา

ร้านที่สาม ร้าน Bonjour ภายในขายของคล้ายๆร้าน SASA แต่ของจะน้อยกว่าจ้าา

เดินชอปกันจนขาลาก เดินทางกลับโรงแรมหมดแรง สลบกันเลยทีเดียวจ้าา

วันที่สอง เช้านี้เดินทางมาเที่ยว Ngong Ping 360 กันตั้งแต่เช้าเลยจ้าา เดินทางมาขึ้นกระเช้าที่ Tung Chung Station

ซึ่งตัวช่วยที่ลดระยะเวลาในการขึ้น Ngong Ping 360 ซึ่งถ้าไม่ได้จองตั๋วไปต้องเสียเวลาเข้าคิวนานกว่าจองไปเป็นชั่วโมงแน่ๆครับ ดังนั้นแนะนำให้จองตั๋วไปก่อนดีกว่าครับ ซึ่งสามารถเลือกการเดินทางได้เลยจ้า ว่า จะเป็นกระเช้าแบบพื้นใสให้หวาดเสียวนิดๆ หรือเป็นกระเช้าแบบธรรมดา ก็สามารถจองได้เช่นกัน

คลิกจองเลยจ้าา https://www.traveloka.com/th-th/activities/hong-kong/product/ngong-ping-360-tickets-2001724083122

ซึ่งผมเลือกกระเช้าแบบคริสตัลทั้งขาไปและขากลับ เนื่องจากขาไปช่วงเทศกาลคนข้างเยอะมาก แต่ขากลับพอได้ถ่ายวิวสวยๆอยู่จ้า

ใช้เวลานั่งกระเช้าประมาณ 40 นาที ก็มาถึงหมู่บ้านนองปิงด้านบนกันแล้วจ้า
อากาศด้านบนลมเย็นมากเลยจ้า บรรยากาศด้านบนงดงามมากครับ

มาถึงด้านหน้าทางขึ้นจะมีวงกลมด้านล่างเพื่อหันหน้าไปทางองค์พระ ไว้สำหรับอธิษฐานของสิ่งที่ต้องการได้ อธิษฐานเสร็จปุ๊บได้เวลาเดินขึ้นไปด้านบนกันแล้วจ้าา

เที่ยวถ่ายรูปกันพอสมควรแก่เวลานั่งกระเช้ากลับจ้าา

นั่งรถบัสมาเที่ยวกันต่อที่ วัดแชกงหมิว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที นั่งพักขากันสบายๆเลย

มาถึงหน้าวัดแชกงหมิวกันแล้ว เข้ามาหน้าประตู จะมีจุดให้ซื้อของบูชา องค์เจ้าแชกงหมิวกันในราคา 52 HK$ ถ้ามาหลายคนจะถูกกว่านี้ครับ
โดยจะมีธูปยักษ์สามดอก และธูปเล็กๆเป็นกำเลยจ้าา

วิธีไหว้คือ หันหน้าออกหน้าวัด สักการะฟ้าดินเจ้าที่ จากนั้นหันหน้าเข้าหน้าองค์เจ้าแชกงหมิว ขอพรเสร็จ เอาธูปใหญ่ไปปัก แล้วเอาธูปเด็กปักกระถงธูปใกล้ๆกัน จากนั้นเหลือธูปสามดอกไปไหว้ด้านใน จากนั้นก็ไปหมุนกังหันภายใน แล้วตีกลองสามครั้งเป็นอันจบกระบวนการจ้า

ก่อนกลับจากวัดแชกงหมิว แวะดูของฝาก และของที่ระลึกกันก่อนกลับจากด้านหน้าวัดได้เลย มีให้เลือกหลายอย่างเลยจ้า

ไหว้ขอพรเสร็จเรียบร้อย เลยมาหาของกินกันที่ จิมซาจุ่ยกันจ้าา

วันนี้เลยมาตกลงปลงใจกันที่ร้าน Chiu Fat Restaurant สั่งแบบจัดเต็มเหมือนเดิม ได้โจ๊กร้อนๆ สุดยอดเลย

เดินทางกลับที่พัก แวะซื้อของกินที่ห้องกันนิดนึง เลือกเข้าร้าน Sushi Take Off ซึ่งเล็งๆไว้ตั้งแต่วันแรกแล้ว

ภายในร้านมีซูชิเป็นคำละ 3 HK$ แต่ถ้าเลือกเป็นเซทแซลม่อนก็มีนะจะ หรือไม่สะใจเลือกเป็นเซทใหญ่บิ๊กเบิ้มก็มีเช่นกันจ้าา

ตบท้ายด้วยร้านชานมติดกันเจอฮะ ราคาแอบแรงอยู่ แต่เอาหนะลองซักพัก รสชาติใช้ได้ทีเดียว

วันที่สาม ผมจะพาทุกท่าน ย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง เพราะว่าวันนี้ เรามีโปรแกรมไปเที่ยว ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์กันเลยจ้าาา

เริ่มต้นกินข้าวเช้ากันที่โรงแรมกันก่อนจ้าา เป็นแบบบุฟเฟต์อาหารค่อนข้างอร่อย แต่มีเลือกน้อยไปนิดนึงจ้า

อิ่มมื้อเช้ากันแล้ว นั่งรถไฟฟ้า มา สวนสนุกฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ โดยต้องนั่งมาต่อรถที่สถานี Sunny Bay ซึ่งขบวนรถจากสถานีนี้เข้า Disney Resort ภายในและภายนอกขบวนรถจะถูกแต่งด้วย Theme การ์ตูนของดิสนีย์แลนด์ทั้งหมดจ้า

หลังจากลงจากขบวนรถไฟ ก็จะเจอกับป้ายทางเดินเข้าต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าสู่ดินแดนแห่งสวนสนุกฮ่องกงดิสนีย์แลนด์แห่งนี้แล้วครับ พร้อมทั้งน้ำพุปลาวาฬที่มีมิกกิเมาสฺ์ลอยอยู่บนน้ำที่พุ่งออกจากหลังปลาวาฬด้วยจ้า


ค่าตั๋วเข้า สวนสนุกฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ จองผ่าน Traveloka ราคาดีกว่าไปซื้อหน้างานครับ ซึ่งสามารถเลือกจองกิจกรรมอื่นๆ ในฮ่องกงอีกมากมาย นอกจากตั๋วสวนสนุกฮ่องกงดิสนีย์แลนด์จ้า

Click โลดด >>  https://www.traveloka.com/th-th/activities/hong-kong/region/hong-kong-10011651

ก่อนจะพาเที่ยวกัน ผมขอเกริ่นแนะนำสวนสนุกคร่าวๆ กันก่อนนะครับ ภายในสวนสนุก 7 โซนด้วยกัน 1) Main Street, U.S.A. 2) Adventureland 3) Grizzly Gulch 4) Mystic Point 5) Toy Story Land 6) Fantasyland และสุดท้าย 7) Tomorrowland

เริ่มต้นด้วย โซนแรก Main Street, U.S.A. โซนนี้จะเน้นไปทางขายของที่ระลึก ร้านอาหารมากกว่าเครื่องเล่นเลย

มาต่อกันที่โซนที่สองครับ The Adventure Land กิจกรรมหลักๆที่ทำในโซนนี้หรือการถ่ายรูปล่องเรือไปยังดินแดนอันล่าพิศวง และข้ามไปผจญภัยเกาะกลางแม่น้ำ เจ๋งดีนะ

เข้ามาโซนนี้แวะรองท้องด้วยไส้กรอก ป๊อปคอร์น และน้ำเปล่า ค่าเสียหาย 137 HK$

นั่งเรือข้ามฝั่งไปดูผจญภัยบนเกาะซาทานกันบ้างจ้า

มาเที่ยวต่อโซนที่สามกันครับ Grizzly Gulch โซนนี้จะตกแต่งแบบมีกลิ่นอายคาวน์บอยมีเครื่องเล่นหลักคือการนั่งรถเหมืองแร่ น่าสนุกมากเลยครับ

มาเที่ยวต่อโซนที่สี่กันต่อเลยจ้าา Mystic Point โซนนี้จะตกแต่งแบบอาคารแบบเทพนิยาย สวยงามทีเดียวเลย โซนนีไม่ใหญ่มากครับ เดินแปบเดียวก็สามารถเดินไปโซนต่อไปได้เลยจ้า

โซนที่ห้า Toy Story Land แต่งอาคารเครื่องเล่นต่างๆ ด้วยสีสันสวยงาม สมกับเป็นโซน Toy Story Land จริงๆครับ


เดินจากโซน Toy Story Land แล้ว เดินเที่ยวต่อที่โซน Fantasy Land ต่อเลยจ้าา

จุดแรกพาเข้าไปชมสวนที่ตกแต่งด้วยธีมเจ้าหญิงเอลซ่าทั้งสวนเลยจ้าา

ออกมาจากสวนแล้ว แวะเล่นเครื่องเล่น การผจญภัยของหมีพู

เดินต่อเข้ามาด้านในอีกนิด จะเจอ Small World หรือ เมืองย่อขนาด ภายในมีการแสดงดนตรีของเหล่าตุ๊กตาจิ๋วน่ารักดีครับ

เดินออกมาจาก Small World มานั่งม้าหมุนและถ่ายรูปกันซักนิด จะน่ารักๆไปอีกแบบนะ

มาต่อกันที่โซนสุดท้ายกันครับ Tomorrow Land แปลง่ายๆ เมืองแห่งอนาคต ซึ่งในโซนนี้จะมีการแปลงโฉมเครื่องเล่นให้ล้ำยุคสมกับชื่อ Tomorrow Land

หลังจากเที่ยวครบทุกโซนกันแล้ว เดินวนกลับมาบริเวณหน้าทางเข้าซึ่งเป็นปราสาทที่ถูกตกแต่งด้วยไฟยามค่ำคืน แถมมีต้นคริสต์มาสซึ่งตกแต่งไฟ เหมาะแก่การถ่ายรูปอย่างยิ่ง จัดไปป..

ปิดท้ายด้วยการออกมาถ่ายน้ำพุหน้าดิสนีย์แลนด์ก่อนเดินทางกลับกันจ้าา

มาเที่ยวต่อกันวันสุดท้ายของการเดินทางจ้า เริ่มต้นกันทำ In town Check in ที่สถานี เกาลูนกันก่อนจ้าา

สำหรับท่านที่ซื้อ airport express มาสามารถสแกน QR code เข้าได้เลยจ้า แต่ถ้าใครไม่ได้กลับด้วย airport express ก็สามารถใช้บริการได้เช่นกัน 2 คน 150 HK$ ครับ

หลังจากทำ In Town Check-in เรียบร้อย ได้เวลาเดินตัวปลิวเที่ยวฮ่องกงกันแล้วจ้าา เริ่มต้นด้วยมือเช้า ด้วย โจ๊ก ฮ่องกงๆ ร้อน ที่ร้าน Hung Lee Restaurant

ท้องอิ่มกันเป็นที่เรียบร้อย เดินเที่ยวกันต่อบริเวณอ่าว Victoria กันจ้าา

นั่งเรือข้ามฟากจากฝั่งเกาลูนไปยังฝั่งฮ่องกง เป็นเรือข้ามฟากกันบริเวณหอนาฬิกากันจ้าา

ขึ้นมารอเรือบริเวณท่าเรือฝั่งเกาลูนกันจ้า ค่าเรือผมไม่แน่ใจนะ เพราะใช้บัตร Octopus ได้สบายๆเลย

ข้ามฝั่งมายังฝั่ง Central ของเกาะฮ่องกงกันแล้ว เดินข้ามสะพานที่ทอดยาว ซึ่งสามารถชมวิวบริเวณฝั่งฮ่องกงได้ชัดเจนครับ

เดินข้ามมาอีกฝั่ง กะจะหาของกินอร่อยในห้างซักหน่อย หาไม่เจอเลยจ้า เลยตัดสินใจมาหาของกินย่านเกาลูน อยู่ในสถานีเกาลูน ซึ่งสะดวกสามารถนั่ง Airport Express ไปสนามบินได้เลยจ้าา

มาถึงก็เจอร้านไอศครีม เลยสั่งแบบผสมทั้งสองอย่างมา ประมาณ 60 HK$ แพงเว่อ แต่อร่อยเว่อสมราคาเช่นกันนะ

เดินหาร้านข้าวกันแทบขาลาก เพิ่งรู้ว่ามันอยู่โซนข้างหลังจ้าา เดินไปเจอย่านอาหารมีให้เลือกกันเพียบ เลยมาตกลงปลงใจกับร้านนี้ เพราะมีทั้งปลาไหลกับเนื้อวากิว จัดไปปปทั้งสองเลย อิ่มแปร่ อร่อยจริงๆครับ

ได้เวลาอันสมควรแก่การเดินทางไปสนามบินกันแล้ว นั่งรถไฟไปสนามบินกันจ้าา

ผ่านระบบตรวจคนเข้าเมืองมายังสนามบิน ยอมรับเลยว่าสนามบินฮ่องกง แบรนด์เนมเยอะที่สุดเท่าที่ผมไปมาแล้ว เยอะมากจริงๆครับ สาวกขาช๊อปต้องถูกใจแน่นอนครับ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านกันจนจบนะครับ

ส่วนทริปต่อไปจะเดินทางไปไหนกัน  ติดตามชมเพิ่มเติมกันได้นะครับบ

ขอฝากติดตามเพจ Facebook กันด้วยนะครับ

Facebook : https://www.facebook.com/TeawMuNDotCom

แสดงความคิดเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.